โซเชียลมิเดียกับสุขภาพจิต

คงต้องพูดว่า โซเชียลมิเดียได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปเรียบร้อยแล้วในปัจจุบัน ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน มันก็จะคอยตามเราไปด้วยทุกๆที่ ไม่เว้นแม้กระทั้งตอนที่เราทำธุระส่วนตัว ก็ต้องหยิบมือถือและเปิด app social ขึ้นมาแล้วก็เพลิดเพลินกับมันจนลืมว่าคุณเสร็จธุระนานแล้ว

เวลาที่คุณว่างไม่มีอะไรทำ คุณก็จะเปิดมันแบบอัตโนมัติ และมันอยากมากที่ตุณจะไม่เปิดมันผมเชื่อว่าภายในทุกๆ 5 นาที ในยามที่คุณว่างและไม่ได้กำลังนอนหลับอยู่ คุณจะต้องเผลอไปเล่นโซเชียวมิเดีย ไม่แอฟใดก็แอฟหนึ่ง หรือว่ามันว่าสิ่งเสพติดหนึ่งหนึ่งไปแลว สิ่งเสพติดแบบดิจิตอล

แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้เป็นทั้ง สิ่งที่ดี หรือสั่งที่ไม่ดี ซะทีเดียว (ประโยคนี้ งงไหมครับ) อย่างที่กล่าวว่ามันกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเราไปแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้มันหรือตอบสนองมันอย่างไร

แต่ให้เรารับรู้ไว้ว่ามันสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเราได้อย่างแน่นอนทั้งทางลบแล้ะทางบวก และให้คำนึงอยู่เสมอว่าสุขภาพจิตจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายได้ด้วย ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า แค่การเล่นโซเชียวมิเดียจะสามารถกำหนดสุขภาพกายเราได้อย่างมีนัยสำคัญ

เราอาจได้ยินมาว่าโซเชียลมิเดียมักจะให้โทษซะมากกว่า ไม่เสมอไปครับ จริงๆแล้วมันก็พอมีประโยชน์แฝงอยู่บ้างนะครับ

– ประโยชน์ของโซเชียวมิเดียต่อสุขภาพจิต –

มันช่วยทำให้เรารู้สึกเหมือนได้อยู่ใกล้ๆเพื่อนๆและครอบครัว ผมในถานะที่เคยได้ไปอยู่ในต่างแดนไกลๆบแกได้เลยว่าจริงสุดๆครับ

การเชื่อมโยงกันทางสังคมจะช่วยทำให้สุขภาพเราดีขึ้น โซเชียวมิเดียมีสรรพคุณเป็นยาคลายเหงาได้ดีเลยล่ะครับ และยังเป็นแหล่งจัดแสดงงานสร้างสรรค์มากมายที่มาจากผู้คนทั่วมุมโลก อย่างการเขียนโพสต์ บทความ marketing และดิจอลกราฟฟิก (Graphic design) 

สิ่งที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวเลย คือการได้รับรู้ข่าวสารบางอย่างที่คนแชร์ในโซเชียวมิเดีย อย่างในกลุ่มคนที่ใช้รถยนต์รุ่นเดียวกันในกลุ่มตาม Facebook เมื่อรถใครมีปัญญหาตรงส่วนไหน เจ้าของรถก็จะมาบอกเล่าในกลุ่มหรือมาถามในกลุ่มว่า มีรถคนอื่นเป็นเหมือนกันไหม หากมีรถของคนอื่นมีปัญญหาแบบนั้นเหมือนกัน พร้อมแนะนำวิธีแก้ให้ด้วย เราในถานะที่ใช้รถรุ่นเดียนกันกับเค้าก็จะได้เตรียมพร้อมรับมือได้ถูก

และอย่างที่ทราบว่าโซเชียลมิเดียก็มีด้านลบเช่นกัน อย่างการคอมเม้นต์เชิงเสียดสีหรือ บูลลี่ กันในสังคมออนไลน์

มันยังพอรับได้หากคุณเป็นผู้ใหญ่ที่โดนบูลลี่ แต่กับเด็กๆแล้วถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเพราะเด็กจะยังมีการควบคุมจิตใจไม่ดีพอ จึงอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจได้มากกว่า และเด็กจะมีเอฟเฟกการฝั่งใจมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า อาจทำให้เขากลายเป็นคนไม่มั่นใจในตนเองเอาง่ายๆ

นอกจากนี้ในโซเชียวมิเดียยังมีข่าวปลอมหรือข่าวเกินจริงเต็มไปหมดในโซเชียลมิเดีย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ารำคาญมากๆหรือบางคนอาจหลงเชื่อเลยก็มี

สิ่งเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นบ่อยๆซ้ำๆก็จะสามารถส่งผลด้านลบต่อสุขภาพจิตได้ โดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ และอย่าคิดว่ามันเป็นแค่ปัญหาเล็กๆนะครับ มันเป็นปัญหาระดับชาติเลย  เราลองมาดูกันว่ามันมีด้านลบอย่างไรบ้าง

– ผลด้านลบจากโซเชียลมิเดีย –

อันดับแรกเลย ใครๆก็ทราบกันดีว่ามันเสียเวลาครับหากเราติดมันมากเกินไป มนุษย์เป็นสัวย์สังคมโดยพื้นฐาน มันเลยเป็นการยากมากที่จะวางมันลงแล้วไปอ่านหนังสือหรือนั่งสมาธิ (มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ไม่โทษกัน) สมองเราต้องการรับรู้เรื่องราวอยู่ตลอดเวลาเวลาโดยเฉพาะเรื่องของคนอื่นน่ะ (แซวครับๆ)

โซเชียวมิเดีย มันจะไปกระตุ้นสมองให้เกิดการเสพติดมัน และแน่นอนว่าเมื่อเสพติดแล้วคนเราก็จะใช้เวลาอยู่กับมันได้นานๆโดยไม่เบื่อ แอะอะก็จะดูแต่จอ ทำให้สนใจสิ่งแวดล้อมน้อยลง อาจจะทำให้เสียโอกาสพบเจอสิ่งใหม่ๆในโลกความจริงที่เกิดขึ้นรอบตัว รวมถึงบางครั้งอาจทำให้เสียบุคลิกภาพได้เลย

หากคุณไปสัมภาษณ์งานแล้วผู้สัมภาษณ์แอบเห็นว่าคุณมั่วแต่เล่นมือถือขณะนั่งรอเข้าสัมภาษณ์ละก็อาจต้องเตรียมหาสมัครที่อื่นรอได้เลย แม้จริงๆแล้วคุณอาจจะเป็นคนที่แบ่งเวลาได้ดีก็ตามก็อย่างไร แต่ไม่มีใครรู้นิสัยข้างในในวันเดียวหรอก อย่างไรเค้าก็ต้องดูจากพฤติกรรมภายนอกก่อนเป็นอันดับแรก

มีงานศึกษา ที่ระบุว่าการใช้เวลากับโชเชียวมิเดียนานๆสามารถทำให้เรารู้สึกแย่ได้ โดยเฉพาะความรู้สึกอิจฉาเมื่อคุณกำลังดูโพสต์ของเพื่อนที่กำลังขับรถคันหรูไปเที่ยวภูเกต หรือเชียงใหม่ พักโรงแรม 5 ดาวที่มีสระน้ำส่วนตัว หรือเห็นว่าเพื่อนของคุณกำลังโพสต์ท่าสวยๆอยู่หน้าหอไอเฟลที่ประเทศฝรั่งเศส ยิ่งถ้าเพื่อนคุณเขียนแคบชั่นด้วยว่าขอบคุณคุณแฟนนะที่พามา คุณอะรู้สึกอย่างไร

Dale Carnegie กล่าวว่าสิ่งที่มนุษย์ต้องการมากที่สุดคือการได้รับความสำคัญ และโซเชียวมิเดียมันเป็นแหล่งชั้นยอดในการบอกให้โลกรู้ว่าตนเองสำคุัญหรือต้องการความสนใจ หรือน่าชื่นชมแค่ไหน สังเกตุไหมว่า โดยปกติแล้วคนเรามักจะโพสต์แต่ด้านหรือโมเม้นที่ตัวเองจะได้รับความชื่นชมหรือน่าอิจฉาซะสวนใหญ่

หากคุณรู้ไม่เท่าทันหลักการจิตวิทนากตรงนี้คุณก็จะอาจตัดพ้อตัวเองอยู่บอยๆว่าทำไมไม่มีเหมือนเค้า ทั้งที่เค้าก็มีเท่าคุณเพียงแต่เค้าชอบเอาแต่ด้านดีให้คุณดูเฉยๆ

นี่เป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมการเล่นโซเชียวนาน มีแนวโน้มว่า มันจะบั่นทอนความเป็น well-being ของคุณได้ทั้งทางจิตใจและทางกาย (จิตใจส่งผลต่อร่างกายอีกที)

– เล่นมันอย่างไรให้  ok –

ก่อนอื่นขอเรียนก่อนนะครับว่าผมก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเล่นโซเชียวมิเดีย แต่พอมีข้อแนะอยู่บ้างจากการติดตามข้อแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก

ก่อนเปิดมันทุกครั้ง คุณต้องรู้จุดประสงค์ชัดเจนว่าจะเปิดมันขึ้นมาดูทำไม เช่น ดูความเคลื่อนไหวของเพื่อนสนิทหรือครอบตรัว ดูสินค้าที่ต้องการ หากคุณไม่รู้จะดูอะไรแล้วเลื่อนดู feed ไปเรื่อยๆละก็ คุณกำลังเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ และให้รับรู้เลยว่านี่เป็นอาการการเสพติดอยู่

ถ้ารู้ตัวแล้วว่าเข้าสู่อาการติด ก็ให้ไปหาอย่างอื่นทำซะ แน่นอนว่ามันไม่ง่าย เพราะไม่มีการบำบัดสิ่งเสพติดที่ไหนทำได้ง่ายๆหรอกครับมันต้องฝืนกันหน่อย แล้วคุณก็จะมีความสุขแบบที่คุณคาดไม่ถึงครับ ความสุขจากสิ่งรอบข้างที่คุณมองข้ามมาตลอด และความสุขจากการไมมีแอฟเฟคลบจากเรื่องราวใน Feed เหล่านั้น สรุปนะครับเล่นมันตอนที่เรารู้ว่าเราต้องการอะไรครับและไม่มากไปกว่าจุดประสงค์ที่ตั้งไว้

อ่านต่อ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *