ผักสวิสชาร์ด [ Swiss Chard ] คลังสาร Antioxidant

ผักสวิสชาร์ด [ Swiss Chard ] คลังสาร Antioxidant

คงจะดีไม่น้อยถ้าเราได้จิ๊บน้ำสกัดจากผักผลไม้ แทนน้ำหวานที่ต้องกังวลปริมาณน้ำตาลขณะกลืน ยิ่งช่วงอากาศร้อนแล้วได้หยิบแก้วพกพาส่วนตัวจากที่วางแก้วในรถ ที่ปกติมันเป็นที่ของกาแฟหรือน้ำหวาน

แต่คราวนี้ลองเปลี่ยนเป็นแก้วที่พิเศษขึ้น ที่บรรจุสิ่งที่เป็น rare item อยู่ภายในอย่างผักสวิสชาร์ดปั่น (swiss chard smutty) หรือสกัดเย็น (swiss chard cold pressed) ก็ได้ มันอาจจะเพิ่มอรรถรสในการเดินทางไม่แพ้น้ำหวานหรือกาแฟก็ได้นะครับ 

มันคงจะเป็นแก้วที่เป็นแหล่งรวมวิตมินและแร่ธาตุเลย จิบแล้วนอกจากได้ความสดชื่นในวันที่อากาศร้อนแล้ว แค่นึกก็ฟินแล้วล่ะครับผมว่า แน่นอนตามรูปแบบ Greatyeat เรามาดูกันว่าผัก swiss chard มาจากไหน มีประโยชน์แค่ไหน 

ภายในสีสันเข้มข้นของมันจะแฝงไปด้วยสรรพคุณมากแค่ไหนกัน นอกจากความสดชื่นแล้วมันมีวิตามินแร่ธาตุอะไรบ้าง

” การดื่มน้ำผักผลไม้ในรถในวันที่อากาศร้อนๆ นอกจากได้ความสดชื่นยังไม่ได้สุขภาพอีก ฟินนะครับแบบนี้ ”


สวิสชาร์ด [ Swiss Chard ] มา
จากไหน


ดูจากชื่อแล้ว ผักสวิสชาร์ด ( Swiss Chard ) น่าจะเป็นฝรั่งแน่นอน
 ใช่แล้วครับมันเป็น แต่แม้ว่าชื่อเค้าจะดูเหมือนว่ามาจากประเทศ สวิสเซอรืแลนด์

แต่จริงๆแล้วดั้งเดิมเค้าเป็นผักแถว เมริเตอร์เรเนียน source บางท่านอาจถามต่อว่าแล้วมันคือที่ไหนล่ะ เมริเตอร์เรเนียน : คือที่ยุโรปใต้

ส่วนในไทยก็ปลูกได้เช่นกัน เมื่อเรานำ  Swiss Chard มาทำน้ำปั่นหรือสกัด จะได้น้ำสีสันที่เป็นสีแดงสดใสน่าดื่ม เพราะบริเวณก้านและต้นเค้าเป็นสีแดง 

หลายคนอาจจะรู้จักผักที่มีสีแดงคล้ายๆกันอย่างบีตรูทดี นั้นแหละครับ Swiss Chard กับ บีตรูท เค้าเป็นผักตระกูลเดียวกัน ต่างกันแค่

บีตรูทมีหัวขนาดใหญ่กว่ามากๆ แต่บอกก่อนว่ารสชาติ Swiss Chard ไม่ได้หวานตามสีนะครับ เพราะเค้าเป็นผักไม่ใชผลไม้ (เลยอาจต้องผสมผลไม้รสหวาน เช่นมะนาว ส้ม ด้วย เอว่าแต่มะนาวเป็นผลไม้หรือผักกันครับเนี่ย admin ไม่รู้จริงๆ) 

ทีนี้เรามาดูกันซิว่าข้างในของความมีสีสันที่สดใสน่าดื่มนั้น จะประกอบไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากน้อยแค่ไหน 

สรรพคุณ & ประโยชน์ 


ขอยกมาแค่สรรพคุณหลักๆของเค้าเลยนะครับ เพราะถ้ายกมาหมดทุกอย่าง เดี๋ยวพวกเราก็จำไม่ได้

ประโยชน์อันแรกของ ผักสวิสชาร์ด ( Swiss Chard ) เลยคือ ช่วยเพิ่มสีสันบนจานหรือน้ำสกัดในแก้วของเรา (อันนี้ไม่ได้เอาฮานะครับ มันมีสีที่น่าดื่มมากเมื่อปั่นหรือสกัด)

ประโยชน์ทางสารอาหารคือมีปริมาณ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่โดดเด่นมาก เมื่อเทียบกับผักอื่นๆทั่วไป (เรียกให้เท่ได้ว่า: antioxidant of the oxidation process…)

เรียกว่าเป็นคลังสารต้านอนุมูลอิสระเลยก็ว่าได้ เป็นสารที่ช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์หรือช่วยชะลอความแก่นั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีวิตามินตัวหนึ่งที่ช่วยในเรื่องสายตา ให้ผลิตสารที่ช่วยเรามองเห็นได้ดีขึ้นในที่มืด และป้องโรคทางสายตาอื่น นั่นก็คือวิตามินเอ ( Vitamin A ) นั่นเอง

แถมด้วยวิตามินเค (Vitamin K) อีกในปริมาณมาก ซึ่งเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อระบบเลือด ช่วยให้เลือดแข็งตัวไวขึ้น หยุดการไหลของเลือด ด้วยในกรณีเกิดบาดแผล โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือน ก็ช่วยชะลออาการลงได้

ส่วนแร่ธาตุหลักเลยที่ p โพเทสเซี่ยม นะครับซึ่งสำคัญกับสมองและระบบประสาท ในกระบวนการโซเดียมโพแสเซียมปั๊ม มันคือกระบวนการส่งข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาทสมองซึ่งต้องใช้ประจุไฟฟ้าที่มาจากธาตุโซเดียมและโพแทสเซียม เรียกได้ว่าทานแล้วได้ทั้งสวยงามและสมองทำงานดีกันเลย 

” Swiss chard มี วิตามิน K สูง ซึ่งช่วยให้เลือดหยุดไหลเวลาเกิดบากแผล หรือมีประจำเดือนรวมถึงบำรุงเลือดที่ไปเลี้ยงกระดูก ”

สรุป

ผักสวิสชาร์ด ( Swiss Chard ) เป็นผักแดนเมริเตอร์เรเนี่ยนแถวยุโรปตอนใต้ ตระกูลเดียวกับบีตรูท ซึ่งมีสีแดงโทนสีเหมือนกันเลย ต่างกันที่ ผักสวิสชาร์ด เราจะทานแค่ใบกับก้าน นิยมนำมาทำเมนูสกัดและสมูทตี้เพราะมีสีสันสดใสน่าดื่ม แต่จะมีรสชาติจืดจึงต้องโยนส่วนผสมอื่นลงใ่นเครื่องคั้นด้วย เช่นมะนาว ส้ม 

สำหรับท่านที่ชอบนำผักมาปั่นเป็นสมูทตี้แต่จะนำผักสุขภาพอื่นๆที่หาได้ง่ายอย่างเรดโอ๊คและกรีนโอ๊คมาเป็นวัตถุดิบก็ยังมีความกังวลอยู่ เพราะปัจจุบันผักสองชนิดนี้มีการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์มากขึ้น

ซึ่งยังมีคำถามค้างคาอยู่ว่ามันปลอดสารมากแค่ไหน หากท่านกังวล ดังนั้น Swiss Chard ก็น่าจะตอบโจทย์ได้อยู่ครับ เพราะเท่าที่ทราบ การปลูกผักสวิสชาร์ดยังใช้วิธีปลูกแบบออแกนิคอยู่

admin อยากลองผสมฝรั่งดู น่าจะอร่อยมาก แถมได้พลัง วิตามินซี จากฝรั่งเติมเข้ามาอีก กินทุกวันน่าจะไม่ต้องแก่กันเลย เรียกได้ว่าเป็นคลังรวมสารชะลอความแก่ (สารต้านอนุมูลอิสระ) แบบคูณ 2 กันเลย

ช่วยป้องกันโรคทางสายตาเพราะมีวิทตามินเอ และช่วยทำให้เลือดแข็งตัวเร็วมีเกิดบาดแผล มีประจำเดือน ปิดท้ายด้วยไฟเบอร์ตามลักษณะของผักทั่วไป  ปัญหาอย่างเดียวอย่างกับ swiss chard คือจำนวนน้อยมากหาซื้อยาก ถือเป็น rare item กันเลย 

อ่านเรื่องอื่นต่อ

– เรื่องอื่นทั้งหมด –

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *